ข่าว

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านพรมแดนถาวรช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามมาตรการควบคุมคุณภาพมันสำปะหลังที่นำเข้า และส่งเสริมการค้าผ่านแดนเพื่อสนับสนุนการส่งออกของไทย นายพิชัยเปิดเผยว่า ตลาดมันสำปะหลังยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการสูงในภาคอุตสาหกรรมอาหาร แอลกอฮอล์ และอาหารสัตว์ ในช่วงเดือนมกราคมถึง 19 มีนาคม 2568 ไทยมียอดส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดรวม 1.74 ล้านตัน มูลค่า 10,981 ล้านบาท และคาดว่าสามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังได้อีก 1.05 ล้านตัน มูลค่า 16,011 ล้านบาท ซึ่งช่วยดูดซับผลผลิตหัวมันสดภายในประเทศกว่า 8.71 ล้านตัน

เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย กระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบคุณภาพมันสำปะหลังนำเข้าอย่างเข้มงวด โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 ปริมาณนำเข้าลดลงถึง 32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพสินค้า กำชับให้กรมการค้าภายในตรวจสอบน้ำหนักมันสำปะหลังนำเข้าให้เป็นไปตามใบอนุญาต และให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลโรงงานแป้งมันและโรงงานแอลกอฮอล์ให้รับซื้อตามมาตรฐานเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่กำหนด เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรมและป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังออกมาตรการควบคุมการขนย้ายมันสำปะหลัง โดยกำหนดให้ผู้ที่จะขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดหรือมันเส้นปริมาณตั้งแต่ 10,000 กิโลกรัมขึ้นไป ใน 60 อำเภอของ 16 จังหวัด ต้องได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายพิชัยย้ำว่า การค้าชายแดนเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยในปีที่ผ่านมา การค้าชายแดนและผ่านแดนมีมูลค่าสูงถึง 1.81 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.1% ซึ่งช่วยเสริมสร้างดุลการค้า และเพิ่มศักยภาพการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนที่คาดว่าจะมีสัดส่วน 30-40% ของการส่งออกทั้งหมดในอนาคต โดยเฉพาะผ่านด่านช่องเม็ก แม้ว่ายังไม่มีรายงานการนำเข้าสินค้าด้อยคุณภาพผ่านช่องทางนี้ แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SME ไทย

ด่านพรมแดนถาวรช่องเม็ก เป็นเส้นทางเชื่อมโยงการค้าระหว่างไทยและลาว ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 มีมูลค่าการส่งออกผ่านด่านแห่งนี้ 3,393 ล้านบาท และนำเข้า 5,880 ล้านบาท โดยสินค้านำเข้าสูงสุด ได้แก่ มันสำปะหลัง (มันเส้น), พลังงานไฟฟ้า, และเมล็ดกาแฟดิบ ขณะที่สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง, พลาสติก, และยานพาหนะ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการค้าชายแดน ควบคู่กับการปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย เพื่อให้การค้าผ่านด่านช่องเม็กและด่านอื่น ๆ เป็นช่องทางสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/politics/news_5104871