ภาพรวมอุตสาหกรรมมันสำปะหลังในประเทศไทย

มันสำปะหลังมีชื่อสามัญว่า Cassava หรือ Tapioca หรือ Manioc มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Maniho esculenta Crantz มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อนพบในแถบอเมริกาใต้ ในปี พ.ศ. 2549 พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วโลกประมาณ 113.8 ล้านไร่ และมีผลผลิตเฉลี่ย 1.92 ตัน/ไร่ โดยที่อินเดียเป็นประเทศที่มีผลผลิตต่อพื้นที่สูงสุด 5 ตัน/ไร่ ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ มีการพัฒนาพันธุ์มันสำปะหลังสายพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูง มีระบบการจัดการแปลงและชลประทานที่ดี ทั้งนี้พันธุ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้เนื่องจากอินเดียมีความหลากหลายของสายพันธุ์มันสำปะหลังสูง จึงเป็นข้อได้เปรียบ ปัจจุบันอินเดีย มีการกำหนดเป้าหมายการพัฒนามันสำปะหลังที่เรียกว่า "2020 strategy" เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่เป็น 6 ตัน/ไร่ (Edison S., 2007) ในขณะเดียวกัน ประเทศไนจีเรียผลิตมันสำปะหลังมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ตามด้วยบราซิลและประเทศไทย เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านพื้นที่มีโครงการวิจัยเน้นการเพิ่มผลผลิตภายใต้การสนับสนุนของ International Center for Tropical Agriculture : CIAT (www.checkbiotech.org) แต่ทั้งนี้ผลผลิตที่มากเป็นอันดับต้นของไนจีเรียและบราซิล เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่มากกว่าประเทศไทย โดยทั้ง 2 ประเทศ ผลผลิตต่อพื้นที่ยังต่ำกว่าไทย และแม้ไทยไม่ใช่ผู้ผลิตมันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลก แต่ในแง่การส่งออก ไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของโลก ประเทศคู่แข่งที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย บราซิล และเวียดนาม พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังพบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ ภาคที่มีการปลูกมากที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มากกว่าร้อยละ 50) รองลงมา คือ ภาคกลาง (ประมาณร้อยละ 33) และภาคเหนือ (ประมาณร้อยละ 15) พื้นที่รวม 48 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ปลูกประมาณ 7 ล้านไร่ ผลผลิตรวมกว่า 26 ล้านตัน ในปี พ.ศ. 2550 (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2550)

มันสำปะหลังมีทั้งหมดประมาณ 150 พันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งลักษณะภายนอก และปริมาณของกรดไฮโดรไซยานิกซึ่งเป็นส่วนประกอบทางสรีรวิทยา จากการที่ปริมาณกรดไฮโดรไซยานิกไม่เท่ากันนี้เอง จึงแบ่งมันสำปะหลังออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดขม (Bitter Type) และ ชนิดหวาน (Sweet Type) โดยชนิดที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแป้งมันสำปะหลังคือชนิดขม สำหรับประเทศไทยมีสายพันธุ์ของมันสำปะหลังที่ใช้ในการผลิตแป้งมันสำปะหลังด้วยกันอยู่ 9 พันธุ์ คือ ระยอง1 ระยอง 2 ระยอง 3 ระยอง 5 ระยอง 60 ระยอง 90 เกษตรศาสตร์ 50 ศรีราชา1 และ พันธุ์ห้านาที (กล้าณรงค์ ศรีรอด และ เกิ้อกูล ปิยะจอมขวัญ, 2546)

อุตสาหกรรมผลิตแป้งมันสำปะหลังถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีผลผลิตต่อปีประมาณ 22.2 ล้านตันต่อปี (ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2548) การผลิตแป้งมันสำปะหลังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ แป้งมันสำปะหลังดิบ (Native Starch) และแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) ในปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานที่ผลิตแป้งมันสำปะหลังทั้งหมด 69 โรงงาน แบ่งเป็นโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังดิบ 47 โรงงาน โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปร 13 โรงงาน และโรงงานผลิตทั้ง 2 ประเภท 9 โรงงาน

หลักการในการผลิตแป้งมันสำปะหลังที่สำคัญ คือ การสกัดแป้งออกจากเซลล์ของรากมันสำปะหลัง โดยใช้น้ำเป็นตัวสกัด และหลักการเหวี่ยงแยกเพื่อแยกแป้งออกจากโปรตีนและสิ่งแปลกปลอมอื่น โดยหลักความแตกต่างของน้ำหนักโมเลกุล กระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังในระยะแรกเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน ใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่ กำลังการผลิตไม่เกิน 10 ตันต่อวัน กรรมวิธีการผลิตเป็นการผลิตแบบอังไฟ โดยนำหัวมันสำปะหลังที่ใช้แรงงานคนล้างเข้าเครื่องบด กรองผ่านตะแกรงปล่อยให้น้ำแป้งตกตะกอน แยกแป้งชื้นมาตากแห้งบนพื้นคอนกรีตร้อน แล้วจึงบดแห้งเป็นผง เนื่องจากข้อจำกัดในทางคุณภาพและกำลังการผลิต การผลิตแป้งแบบนี้จึงลดจำนวนลงจนไม่เหลืออยู่ในปัจจุบัน และหันมาผลิตแบบใหม่ที่ใช้เครื่องจักรแทนโดยเป็นการผลิตแบบสลัดแห้ง ซึ่งพบว่าแป้งที่ได้มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้